1. แบ่งตามความต้องการแสงในการเจริญเติบโตสามารถแบ่งได้
2 ประเภทคือ
1.1 พืชในร่ม (indoor plants) เป็นพืชที่ต้องการความเข้มของแสงต่ำ ควรปลูกในที่ร่ม มี
แสงรำไร
จะทำให้พืชมีการสังเคราะห์แสงดี อย่าให้ถูกแดดจัด เพราะจะทำให้ใบไหม้และตายได้ เช่น
เฟิร์นต่าง ๆ สาวน้อยประแป้ง บอนสี เป็นต้น
1.2 พืชกลางแจ้ง (Outdoor plants) เป็นพืชที่ต้องการความเข้มของแสงสูง
จึงจะทำให้
ขบวนการสังเคราะห์แสงของพืชทำได้ดี พืชประเภทนี้จึงต้องปลูกกลางแจ้ง
ถูกแดดจัดตลอดทั้งวัน เช่น กุหลาบ เข็ม ยี่โถ ดาวเรือง ดาวกระจาย ชวนชม เฟื่องฟ้า
เป็นต้น
2. แบ่งตามลักษณะรูปทรงของลำต้น ใบ
ได้แก่พรรณไม้ที่มุ่งเน้นความสวยงามที่รูปทรงของ
ลำต้น
พุ่ม ใบ แบ่งได้ดังนี้
2.1. ไม้ยืนต้น (Tree) ส่วนมากเป็นพรรณไม้ที่ต้องขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด
มีอายุยืนนานหลายปี มีดังนี้
(1) ไม้ยืนต้นใบเลี้ยงคู่ ได้แก่ ไม้ให้ร่มเงา เช่น ประดู่แดง
ประดู่บ้าน จามจุรี ทองกวาว คูณ นนทรีย์ ตะแบก เสลา พิกุล ลั่นทม ไทร ชงโค ฯลฯ และไม้ยืนต้นที่มีลักษณะพิเศษของลำต้น
ใบ หรือทรงพุ่มสวยงาม เช่น เฟื่องฟ้าตอ โมกตอ ไม้ดัดไม้แคระ ซองออฟอินเดีย ฯลฯ
(2) ไม้ยืนต้นใบเลี้ยงเดี่ยว เช่น
จันทน์ผา ปาล์มชนิดต่าง ๆ (จั๋ง อินทผลัม ปาล์มน้ำมัน ตาล หมากเขียว หมกเหลือง
หมากนวล ฯลฯ)
2. 2 ไม้พุ่ม (Shrub) เป็นพรรณไม้ที่ส่วนมากจะขยายพันธุ์โดยวิธีการตอน หรือ ตัดชำ ปลูกแล้ สามารถบังคับพุ่มได้ มี 2 กลุ่ม ดังนี้
(1) ชนิดตัดแต่งบังคับทรงพุ่มได้ เช่น หูปลาช่อน ชบาด่าง นีออน
ลิ้นกระบือ เข็มเชียงใหม่ เข็มพิษณุโลก บานบุรีพุ่ม ฯลฯ
(2) ชนิดซอยบังคับทรงพุ่ม
จะใช้กับพรรณไม้ที่ต้องการให้ออกดอก และต้องการควบคุมความสูงของทรงพุ่ม เช่น เฟื่องฟ้า เข็มปัตตาเวีย
เข็มมาเลเซีย เล็บครุฑ โกสน ฯลฯ
2.3 ไม้กอ เป็นพรรณไม้ที่ขยายพันธุ์โดยวิธีการแยกหัว
หน่อหรือเหง้า ได้แก่ ขิงแดง ข่าด่าง รางทอง เขียวหมื่นปี กล้วยกำมะหยี่
เสน่ห์ขุนแผน กาเหว่าลาย หนวดปลาดุก ม้าเวียน เศรษฐีไซ่ง่อน กำแพงเงิน กาบหอย
สัปปะรดสี ฯลฯ
2.4 ไม้คลุมดิน
เป็นพืชที่มีลำต้นสั้นหรือลำต้นมีลักษณะเลื้อยยาวแผ่คลุมดินได้ดี เช่น มันเทศด่าง
ผกากรองเลื้อย
3.
แบ่งตามความสวยงามหรือการใช้ประโยชน์จากส่วนต่าง ๆ ของพรรณไม้ แบ่งได้ดังนี้
3.1 พืชพรรณที่มีโคนต้นหรือรากสวยงาม
เช่น ไทร โพธิ์ ชวนขม หมากเล็กหมากน้อย สนเลื้อย ฯลฯ
3.2 พืชพรรณที่มีลำต้นแปลกสวยงาม
เช่น ไม้ดัดไม้แคระ ปาล์มชนิดต่าง ๆ ฯลฯ
ที่มา : http://www.oknation.net/blog/print.php?id=79580